ยินดีต้อนรับเข้าสู่เว็บไซต์ Phantom CM156

วันอังคารที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2556

ผีวัดโพธิแตงใต้


      วัดโพธิ์แตงใต้ อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นวัดที่มีความเก่าแก่มากวัดหนึ่งของจังหวัดอยุธยา ในสมัยก่อนวัดแห่งนี้มีกิตติศัพท์ในเรื่อง “ผีดุ” ขนาดพระเณรยังไม่กล้าจำพรรษา !!!
รายละเอียดเกี่ยวกับวัดโพธิ์แตงใต้ ผมได้ข้อมูลเบื้องต้นมาเพียงว่า ………เป็นวัดเก่าแก่แต่ไม่รู้ว่าสร้างมาตั้งแต่เมื่อใด และใครเป็นผู้สร้าง บางคนก็สันนิษฐานว่า น่าจะสร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยา (ตอนปลาย) แต่บางคนก็บอกว่าไม่ใช่ น่าจะเป็นสมัยรัตนโกสินทร์มากกว่า เอาเป็นว่าวัดโพธิ์แตงใต้สร้างมานานก็แล้วกัน
วัดโพธิ์แตงใต้มีพระเกจิฯ ดังอยู่รูปหนึ่ง ซึ่งชาวบ้านทั่วไปให้เลื่อมใสและศรัทธาท่านมาก พระเกจิฯ รูปนั้น คือ หลวงปู่สด ธัมวโร ท่านเป็นอดีตเจ้าอาวาสของวัดโพธิ์แตงใต้ นั่นเองแต่บางคนเรียกท่านว่า หลวงพ่อปู่สดตาทิพย์ เหตุผลที่เรียกท่านเช่นนั้นก็เพราะว่า ท่านเป็นผู้ที่มีญาณพิเศษ สามารถล่วงรู้เหตุการณ์ในอนาคตได้อย่างน่าอัศจรรย์
ตอนนั้นยอมรับว่างงพอสมควร เพราะไม่รู้ว่า วัดโพธิ์แตงใต้อยู่ที่ใด จะเดินทางไปถึงวัดได้อย่างไร แต่ผมก็ยังโชคดีที่บังเอิญ น้องหมวยพนักงานคอมฯ ของผมเธอเป็นคนอยุธยา และเธอมีบ้านอยู่ข้างๆ วัดโพธิ์แตงใต้พอดี เรื่องที่ว่ายากมันก็เลยกลายเป็นเรื่องง่าย
………การเดินทางจากกรุงเทพฯ มาที่วัดโพธิ์แตงใต้ ใช้เวลาราวชั่วโมงเดียว เมื่อมาถึงวัดน้องหมวยได้พาผมไปที่บ้านญาติคนหนึ่ง ซึ่งมีศักดิ์เป็นลุงแท้ๆ ของเธอ มีชื่อว่า คุณลุงบุญช่วย สุขสาขา แม้ว่าจะมีอายุ 80 ปีเศษๆ แต่ทว่าสุขภาพร่างกายก็ยังดูแข็งแรงดี
“มีคนบอกว่าที่วัดโพธิ์แตงใต้ผีดุ เรื่องนี้เป็นความจริงหรือเปล่าครับคุณลุง?”
คุณลุงมองหน้าผมแล้วก็หัวเราะ
“ผีที่วัดโพธิ์แตงใต้บอกว่าดุเฉยๆ ไม่ได้ ต้องบอกว่าดุมากถึงจะถูก”
คำตอบของคุณลุงบุญช่วย ทำให้ผมมีความรู้สึกหนาวสะท้านขึ้นมาทันที คนอายุปูนนี้แล้ว ผมมีความเชื่อมั่นว่าคงจะไม่กุเรื่อง หรือเป็นพวกปั้นน้ำเป็นตัวอย่างแน่นอน
“คุณลุงเคยเจอกับตัวเองบ้างหรือเปล่าครับ?”
คุณลุงพยักหน้าช้าๆ แทนคำตอบ ซึ่งมันก็เป็นการพอเพียงสำหรับผมแล้ว
ตามธรรมเนียมของคนต่างจังหวัด แม้ว่าจะไม่มีความคุ้นเคยกันมาก่อนก็ตาม แต่เมื่อแขกมาถึงบ้าน เจ้าของบ้านก็จะต้องให้การต้อนรับ จัดหาข้าวปลาอาหารมาให้กิน ซึ่งทำให้ผมประหยัดค่าอาหารมื้อกลางวันไปมื้อหนึ่ง
………คุณลุงบุญช่วยท่านได้พาผมไปที่วัด ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากบ้านของแกเท่าใดนัก
“ขึ้นไปไหว้หลวงปู่สดเสียก่อน แล้วลุงจะเล่าให้ฟังว่า ผีที่วัดโพธิ์แตงใต้มันเฮี้ยนขนาดไหน”
บนศาลาการเปรียญของวัด มีรูปหล่อของหลวงปู่สดแต่ด้านหลังของรูปหล่อ มีสังขารของหลวงปู่สดนอนอยู่ในโลงแก้ว
“พอไหว้รูปหล่อของหลวงปู่เสร็จ ก็ควรจะไปดูร่างของท่านที่อยู่ในโลงด้วยนะ”
“ไม่ต้องดูก็ได้มั้งครับลุง” ผมพูดอย่างเสียวๆ
“เถอะน่า ไปดูสักหน่อย ท่านละสังขารมานานหลายปีแล้ว แต่เป็นเรื่องประหลาดที่เนื้อหนังมังสาของท่านไม่เน่าไม่เปื่อย แถมฟันและเส้นผมก็งอกยาวขึ้นเรื่อยๆ”
หากว่าสังขารของหลวงปู่สดไม่ได้ฉีดยา ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นก็ต้องนับว่าเป็นเรื่องน่าอัศจรรย์มากทีเดียว
……….จากนั้นคุณลุงบุญช่วยก็พาผมเดินมาที่ศาลแห่งหนึ่ง ซึ่งอยู่ข้างๆ ศาลาการเปรียญ
“นั่นเป็นศาลของเจ้าแม่รำพึง ซึ่งแต่ก่อนมีกิตติศัพท์ในเรื่องความเฮี้ยน ขนาดกลางวันแสกๆ ก็ยังอุ้มลูกเดินออกมา พระเณรไม่เป็นสุข ตอนนั้นลุงยังเป็นเด็กหนุ่ม วัยกำลังซ่า พอรู้ว่าที่นี่ผีดุก็เลยชวนพวกเพื่อนๆ มาลองของ เอามุ้งมานอนหน้าศาลกับพวกเพื่อนๆ”
“แล้วเจออะไรหรือเปล่าครับ?”
“เจอเต็มๆเลย ตอนนั้นราวๆ ตี 1 ลุงกำลังเคลิ้มๆ จวนจะหลับอยู่แล้ว ก็มีเสียงคนเดินที่หัวนอน เข้าใจว่าเป็นพวกเด็กวัดแกล้งทำเป็นผีมาหลอกลุง ตอนนั้นรอจังหวะให้มันเดินมาใกล้ๆ ในมือก็เตรียมอีดาบยาวเท่าแขนไว้แล้ว กะว่าจะฟันให้หัวแบะ พอเสียงเดินมาหยุดที่หัวนอน ลุงก็ลุกพรวดขึ้น แล้วตลบมุ้งเงื้อดาบสุดแขน”
“แล้วฟันทันทีเลยใช่มั้ยครับ”
“แทบช็อกน่ะซิ พอลุงเปิดมุ้งก็เจอจะจะเต็มตาเลย ผู้หญิงผมยาว หน้าบวมฉึ่ง มันก็ศพเราดีๆ นี่เอง ลุงพยายามรวบรวมสติ แล้วพูดด้วยเสียงดังๆ ว่า มึงจะลองกับกูอย่างนั้นใช่มั้ย อีผีบ้า ลุงเห็นมันทำท่าจะโผเข้ามาบีบคอลุง ลุงก็เลยตัดสินใจฟันมันที่คอสุดแรง”
“ถูกเต็มๆ เลยใช่มั้ยครับลุง?”
“เหมือนเราฟันอากาศฟันลม แรงที่เหวี่ยงดาบทำให้เราเสียหลักถลาล้มลงไม่เป็นท่า เสียงเอะอะทำให้พวกเพื่อนๆ ของลุงตื่นขึ้นมา หมาในวัดหอนกันเกรียว เพื่อนบอกลุงว่าเห็นลุงฟันอะไรวืดวาด แต่มองไม่เห็นว่าฟันอะไร ลุงก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้พวกเขาฟัง พอเล่าจบเพื่อนคนหนึ่งก็ทำท่าตกใจ แล้วชี้ไปที่เมรุเผาศพ คนอื่นๆ ก็เลยมองตาม”
“เขาเห็นอะไรครับลุง?”
“ผีผู้หญิงตัวเดิม แต่ตอนนี้ขึ้นไปนั่งอุ้มลูกอยู่บนเมรุเผาศพ ตอนนั้นถอดใจไม่เอาอีกแล้ว ลุงกับเพื่อนๆ นอนจับไข้อยู่หลายวัน พ่อแม่ต้องพามารดน้ำมนต์ที่วัด และไปขอขมาเจ้าแม่รำพึงที่ได้ล่วงเกินลบหลู่ อาการของลุงกับพวกเพื่อนๆ ก็ดีขึ้น จากนั้นก็ไม่เคยคิดจะลองดีอีกเลย”
ชาวบ้านที่เป็นคนเก่าคนแก่เล่าให้ฟังว่า แต่ก่อนนั้นวัดโพธิ์แตงใต้ก็มีความสุข สงบ ไม่มีเรื่องผีเรื่องสาง จนกระทั่งมีศพของสาวท้องแก่ ชื่อ “รำพึง” มาเผาที่วัด อาถรรพณ์ต่างๆ ก็เลยเกิดขึ้น ซึ่งเป็นความผิดพลาดของสัปเหร่อ ที่ชื่อว่า “ลุงผล”
“ตาผลมันเพี้ยน ชอบทำอะไรแผลงๆ อยู่เรื่อย ผี 4 ตา ศพคนท้องตายทั้งกลม มีใครเผารวมกันบ้าง แต่เขาก็บอกว่าไม่มีอะไร เผารวมกันได้ หากมีอะไรเกิดขึ้นตาผลจะรับผิดชอบเอง ขนาดหลวงพ่อมาห้ามแกยังไม่เชื่อเลย จำได้ว่าศพเผาตอนเย็น คืนนั้นผีก็เฮี้ยนทันที พระองค์หนึ่งลุกขึ้นมาเข้าห้องน้ำกลางดึก ถูกผีตายท้องกลมหลอกจนหมดสติ จากนั้นพระที่จำพรรษาในวัดก็เริ่มสึกออกไป วัดมีพระเหลืออยู่เพียงไม่กี่องค์ แทบจะเป็นวัดร้าง”
“แล้วที่ลุงผลแกบอกว่าจะรับผิดชอบกับเรื่องที่เกิดขึ้น”
“ตาผลรู้เรื่องก็บอกว่าจะมาจับผีถ่วงน้ำ ขณะที่แกนั่งเรือมาตามแม่น้ำ ปรากฏว่าเรือเกิดล่ม แกเป็นคนว่ายน้ำแข็ง แต่ก็ไม่มีใครพบศพของแก ทำให้เดากันว่าแกจมน้ำตายแล้ว แต่มีคนพูดกันว่าแกถูกจระเข้คาบไปกินแล้ว เพราะตอนที่เรือล่ม มีคนเห็นว่าจระเข้ตัวใหญ่หนุนเรือของแก
ผีของแม่รำพึงมาสงบเพราะหลวงปู่สด ตอนที่ท่านมาเป็นเจ้าอาวาสที่วัด ตอนนั้นผีของนางรำพึงกำลังคะนอง ท่านทำพิธีกรรมสวดส่งวิญญาณอยู่คืนหนึ่ง จากนั้นก็ไม่มีใครเห็นการปรากฏตัวของผีนางรำพึงอีกเลย ท่านเป็นพระที่มีวิชาอาคมสูงมาก ท่านมีตาทิพย์ และท่านยังดูดวงได้อย่างแม่นยำอีกด้วย หากท่านทำนายว่าไอ้คนนี้จะต้องตายโหงใน 7 วัน หากไม่รีบมาสะเดาะเคราะห์ รับรองไม่เกิน 7 วัน จองศาลาวัดไว้ได้เลย”
วันหนึ่งเต็มๆ กับการพูดคุยกับชาวบ้านวัดโพธิ์แตงใต้ ยังไม่จุใจ ทำให้ผมต้องบอกกับตัวเองว่า สักวันจะต้องกลับมาที่นี่อีกครั้งอย่างแน่นอน

ผีบ้านทรงไทย


        ญาติผู้ใหญ่ของผมคนหนึ่งมีชื่อว่าลุงชด ชอบเรียนวิชาอาคมและเป็นนักสะสมพระเครื่องตัวยง ส่วนเครื่องรางของขลังก็พอมีบ้างแต่ไม่มากนัก
ลุงชดนี่แหละที่ทำให้เรารู้ความจริงว่า ในโลกนี้ผีมีจริง !!!
สมัยที่ลุงชดยังเป็นหนุ่มๆ แกเป็นคนใจร้อน ใครมาท้าตีท้าต่อยเป็นไม่ได้ เลือดของนักสู้เป็นต้องเดือดพล่านขึ้นมาทันที ด้วยเหตุนี้เองทำให้ลุงชดต้องเรียนรู้เรื่องราวของวิชาอาคม ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องปกติของผู้ชายอยู่แล้ว
…….หลังบ้านของลุงชดอยู่ติดกับวัดขวิด ซึ่งสมัยก่อนมีกิตติศัพท์ในเรื่องผีดุเป็นอันมาก ไม่มีใครกล้าเดินผ่านวัดในเวลากลางคืน แต่ลุงชดกลับเดินผ่านป่าช้าอย่างสบายใจ เหมือนว่าในป่าช้าเป็นห้างสรรพสินค้ายังไงยังงั้น
“ถามจริงๆ เถอะครับลุง ไม่เคยถูกผีหลอกบ้างเลยรึ”
“เราต้องแยกแยะให้ออก ผีหลอกกับผีมาปรากฏร่างมันคนละเรื่องกัน แต่คนทั่วไปมักเข้าใจผิด คิดว่าทุกครั้งที่เห็นผีมักจะทึกทักว่าถูกผีหลอกที่จริงแล้วไม่ใช่ เขาอาจจะมาปรากฏตัวให้เห็นเพราะต้องการจะบอกอะไรเราบางอย่าง บางครั้งผีมีความหิวโหย ไม่มีใครทำบุญอุทิศส่วนกุศลมาให้ แต่เราเป็นผู้ที่มีจิตใจเอื้ออารี ผีจึงมาขอส่วนบุญโดยการปรากฏร่างให้เห็น”
“ที่บอกว่าผีมาบอกอะไรเราบางอย่าง หมายความว่าอย่างไร?”
“ผีนั้นมีความสามารถพิเศษ คือเขาสามารถล่วงรู้เหตุการณ์ในอนาคต รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับใครบางคน หากว่าเขามีความปรารถนาดี ไม่ต้องการให้คนผู้นั้นต้องได้รับเคราะห์กรรม เขาก็จะมาปรากฏร่างให้เห็น เพื่อเป็นการเตือนให้ระวังตัว คงจะเคยได้ยินคำกล่าวที่ว่า ผีมาบอก”
“ลุงห้อยพระเครื่องบ้างหรือเปล่า”
“ไม่เคยห้อยพระเครื่อง คนที่ห้อยพระเครื่องแต่ทำตัวไม่ดี ห้อยพระก็เท่านั้นไม่มีอะไรดีขึ้นหรอก”
“ได้ข่าวว่าลุงเคยถูกฟันแต่ไม่เข้า”
“ตอนนั้นไปมีเรื่องกับนักเลงวัดบ้านทวน มันเกเรชอบหาเรื่องชาวบ้าน เห็นพวกสาวๆ เป็นไม่ได้ ไม่เลือกว่าเป็นลูกเขาเมียใคร มันจีบดะไม่เลือกหน้า ลุงก็เลยท้าพวกมันดวล แต่มันเล่นทีเผลอตอนที่เรายังไม่ทันระวังตัว อีดาบยาวฟันเราเข้าที่กลางหลัง ตอนนั้นสะดุ้งคิดว่าเหวะแล้ว แต่พอรู้ว่าไม่เข้ากำลังใจมาเป็นกระบุง เลยไล่แทงพวกมันจนหนีกระเจิง”
“ไม่น่าเชื่อนะครับว่าเรื่องคงกระพันชาตรีมันจะมีจริง”
“ยังมีความลี้ลับในโลกนี้ที่เรายังไม่รู้อีกมากมาย แต่คนทั่วไปมักมองว่าสิ่งไหนพิสูจน์ไม่ได้ แสดงว่าสิ่งนั้นเป็นเรื่องเหลวไหล อย่าไปเชื่อ อย่างกับเรื่องผีเหมือนกัน คนชอบพูดกันนักว่าอย่าไปเชื่อ ในโลกนี้ไม่มีผีหรอก แต่ลุงเคยเจอจะจะมาแล้วจนนับไม่ถ้วน สนใจอยากจะฟังหรือเปล่าล่ะ”
……..ประสบการณ์ผีเรื่องแรกที่ลุงชดเล่าให้ฟังก็คือ “ผีที่บ้านทรงไทย” ซึ่งบ้านทรงไทยหลังดังกล่าว อยู่ที่อำเภอองค์รักษ์ จังหวัดนายก ปัจจุบันบ้านหลังกล่าวก็ยังอยู่ แต่ถูกดัดแปลงบางส่วนให้เป็นร้านอาหารไปแล้ว
“วันนั้นลุงไปหาเพื่อนที่จังหวัดนครนายก เพื่อนเก่าไม่ได้เจอกันมานาน มันก็กินติดลมไปหน่อย รถเที่ยวสุดท้ายก็เลยหมด เพื่อนก็เลยให้นอนค้างที่บ้าน ใจจริงของลุงไม่อยากนอนค้างที่บ้านของเพื่อนสักเท่าไหร่ มันมีอะไรบางอย่างที่ทำให้เราหวาดระวัง คล้ายกับว่ามีคนมองเราอยู่ ไม่ว่าเราจะทำก็ตาม
ลุงกับเพื่อนนั่งกินเหล้ากันอีกพักก็แยกย้ายกันไปนอน ลุงนอนในห้องที่เพื่อนจัดเอาไว้ให้ เป็นห้องเล็กๆ ในห้องมีโกฐใส่กระดูกตั้งอยู่ ตอนนั้นใจไม่สู้ดี แต่จะบอกเพื่อนว่ากลัวก็ไม่ได้ เพราะเพื่อนรู้ว่าลุงเป็นคนไม่เคยกลัวอะไรอยู่แล้ว
พอกำลังเคลิ้มๆ จวนจะหลับ ก็ได้ยินคนพูดข้างหูบอกว่า ออกไปจากห้องของกู ออกไปจากห้องของกู ตอนแรกคิดว่าเราหูแว่วไปเอง พยายามไม่คิดอะไร คราวนี้ไม่ได้ยินเสียงแต่ถูกดึงขา ลุงก็ชักเท้ากลับสวดมนต์เป็นการใหญ่ มีเสียงเท้าคนเดินรอบๆ ห้อง ลุงตัดสินใจเป็นไรเป็นกันวะ เปิดมุ้งลุกขึ้นยืนทันที ในห้องมันมีแสงสว่างลางๆ ไม่ถึงกับมืดเสียทีเดียว ลุงจึงมองเห็นแบบลางๆ ว่ามีผู้หญิงแก่ๆ ยืนอยู่ที่มุมห้อง ตอนนั้นสติแทบแตกโวยวายลั่นห้องจนเพื่อนตกใจตื่น ลุงก็เลยเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อนบอกว่าห้องนี้เป็นห้องยายของมันเอง ยายตายในห้องนี้ และที่นอนที่ลุงนอนก็เป็นของยายมัน
เพื่อนบอกว่าลืมจุดธูปบอกยายของมันว่าลุงจะเข้ามานอนในห้องนี้ ตอนนั้นมันก็จวนจะสว่างแล้ว ลุงก็เลยนั่งกินเหล้าต่อกับเพื่อน ไม่คิดจะกลับไปนอนในห้องนั้นอีกเลย นี่เป็นประสบการณ์ครั้งแรกของลุงที่ถูกผีหลอก จากนั้นลุงก็เริ่มศึกษาเรื่องราวของไสยศาสตร์ ศึกษาเรื่องจิตและวิญญาณ ยังมีสิ่งต่างๆ อีกเป็นจำนวนมากที่มีอยู่ในโลกนี้ แต่คนธรรมดาสัมผัสไม่ได้ จับต้องไม่ได้”
…….อีกประสบการณ์หนึ่งที่เกิดขึ้นกับลุงชดเป็นเรื่องของ “ผีสาวเฮี้ยน” ซึ่งเกิดที่จังหวัดลพบุรี
“ญาติคนหนึ่งของลุงไปเปิดร้านขายของที่จังหวัดลพบุรี วันเปิดร้านเขาก็ชวนพวกญาติๆ ไปทำบุญที่ร้าน ลุงก็ไปแต่ถึงลพบุรีก็ดึกมากแล้ว ตอนนั้นรู้สึกหิวก็เลยแวะทานข้าวต้ม ร้านข้าวต้มอยู่ติดกับสถานีรถไฟ ตอนที่กำลังนั่งกินข้าวต้มอยู่นั้น ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งเดินผ่านมา การแต่งเนื้อแต่งตัวก็ดี หิ้วกระเป๋าเดินทางใบเล็กๆ มาใบนึง แต่ลุงก็ไม่ได้สนใจอะไร พอกินเสร็จก็ขึ้นรถ ผู้หญิงคนนั้นเดินมาหาลุง แล้วถามลุงว่าจะไปทางไหน ลุงบอกว่าไปทางลำนารายณ์ เขาก็บอกว่าไปทางเดียวกัน ขอติดรถไปด้วยคน ลุงเห็นเป็นผู้หญิงก็สงสารเลยให้นั่งรถไปด้วย
พอขับรถออกมาได้สักพัก มันก็เริ่มได้กลิ่นเหมือนมีอะไรเน่าๆ อยู่ในรถ กลิ่นมันเหม็นมาก ลุงถามผู้หญิงคนนั้นว่าได้กลิ่นอะไรหรือเปล่า เขาก็พยักหน้าบอกว่ากลิ่นศพคนตาย ลุงบอกว่าไม่ใช่หรอก มันเป็นกลิ่นหนูตายต่างหาก กลิ่นศพที่ไหนกัน พอลุงพูดจบผู้หญิงคนนั้นก็หัวเราะ มันเป็นเสียงหัวเราะที่เยือกเย็น ไม่ใช่เสียงคนอย่างแน่นอน พอลุงหันไปมองก็เห็นใบหน้าผู้หญิงคนนั้นเน่าเฟะ ดวงตาห้อยออกมานอกเบ้า น่ากลัวมาก ตอนนั้นลุงเหยียบเบรกรถทันที ความตั้งสิตแล้วสวดคาถาบูชาท้าวเวสสุวรรณ ร่างของผีผู้หญิงก็หายวับไป
พอไปถึงบ้านญาติลุงก็เล่าเหตุการณ์ที่เจอมาให้พวกเขาฟัง ทีแรกก็ไม่มีใครเชื่อคิดว่าลุงโกหก แต่บังเอิญมีญาติคนหนึ่งเป็นตำรวจถามลุงว่า ผู้หญิงที่ลุงพบใส่เสื้อสีแดงลายดำ ลุงกางเกงขาวใช่หรือเปล่า ลุงก็บอกว่าใช่ เขาบอกว่าผู้หญิงคนนั้นชื่อว่า “เพ็ญ” เป็นคนจันทบุรี มาตามสามีที่จังหวัดลพบุรี แต่ถูกคนร้ายลวงไปข่มขืนแล้วฆ่าทิ้งอย่างโหดเหี้ยม หลังจากนั้นปรากฏว่าผีของเพ็ญได้ออกอาละวาด เที่ยวหลอกหลอนชาวบ้านเป็นประจำ ตำรวจเองก็ยังถูกหลอกจนไม่กล้าออกตรวจพื้นที่
วันรุ่งขึ้นลุงก็เลยใส่บาตรอุทิศส่วนกุศลให้เพ็ญ คืนนั้นเพ็ญก็มาเข้าฝันลุง พร้อมกับขอบคุณที่ลุงทำบุญให้เธอ เธอบอกว่าจะไปผุดไปเกิดเสียที”